วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2559

Diary Note 3

Diary Note 3
29th January,2016

Knowledge

ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
1. กลุ่มเด็กที่มีลักษณะทางความสามารถสูง
มีความเป็นเลิศทางสติปัญญา
เรียกโดยทั่ว ๆ ไปว่า เด็กปัญญาเลิศ
เด็กปัญญาเลิศ (Gifted Child)
 - เด็กที่มีความสามารถทางสติปัญญา
 - มีความถนัดเฉพาะทางสูงกว่าเด็กในวัยเดียวกัน 

ลักษณะของเด็กปัญญาเลิศ

ข้อแตกต่างระหว่างเด็กฉลาด กับ Gifted
ตัวอย่างเด็กGifted ที่มีชื่อเสียง
                Kim Ung-yong (born March 7, 1963) is a South Korean civil engineer and former child prodigy. Kim was listed in the Guinness Book of World Records under "Highest IQ"; the book gave the boy's score as about 210.  Guinness retired the "Highest IQ" category in 1990 after concluding IQ tests were too unreliable to designate a single record holder.


        ด็กให้คำปรึกษาปัญหาชีวิตสุดยอดด็กอัฉริยะที่มีสติปัญญาด้านมนุษยสัมพันธ์                       ( Interpersonal Intelligence )?อายุ 7 ขวบ (เมื่อปี 2009)
       สถานีวิทยุท้องถิ่น Mercia FM ใน เมืองโคเวนทรี ประเทศอังกฤษ ได้เสนองานเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาปัญหาชีวิต กับน้อง?Elaina Smith?ในรายการวิทยุ?เมื่อมีสายโหญิงสาวคนหนึ่งที่โทรเข้ามาปรึกษา เรื่องที่เธอถูกแฟนทิ้ง คำแนะนำง่าย ๆ ของ Elaina Smith?คือ บอกให้หญิงสาวผู้นั้นออกไปโยนโบว์ลิ่งกับเพื่อนและก็ดื่มนมสักแก้วนึงโต ๆ?และนั่นทำให้เธอได้เวลา จัดรายการแก้ปัญหาชีวิตรายสัปดาห์ จากสถานีจนได้รับความนิยมจากผู้ฟังนับพัน

เด็กชายธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี


2.  กลุ่มเด็กที่มีลักษณะทางความบกพร่อง
1. เด็กที่บกพร่องทางสติปัญญา

 (Children with Intellectual Disabilities)

หมายถึง เด็กที่มีระดับสติปัญญาหรือเชาว์ปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยเมื่อเทียบเด็กในระดับอายุเดียวกัน
มี 2 กลุ่ม คือ เด็กเรียนช้า และเด็กปัญญาอ่อน
           เด็กเรียนช้า
 - สามารถเรียนในชั้นเรียนปกติได้
 - เด็กที่มีความสามารถในการเรียนล่าช้ากว่าเด็กปกติ
 - ขาดทักษะในการเรียนรู้
 - มีความบกพร่องทางสติปัญญาเพียงเล็กน้อย
 - มีระดับสติปัญญา (IQ) ประมาณ 71-90 
สาเหตุของการเรียนช้า
  
         เด็กปัญญาอ่อน
 - ระดับสติปัญญาต่ำ
 - พัฒนาการล่าช้าไม่เหมาะสมกับวัย
- มีพฤติกรรมการปรับตนบกพร่อง
 - อาการแสดงก่อนอายุ 18

พฤติกรรมการปรับตน
 การสื่อความหมาย
 การดูแลตนเอง
การดำรงชีวิตภายในบ้าน
การปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในสังคม
การใช้แหล่งทรัพยากรในชุมชน
 การควบคุมตนเอง
 การนำความรู้มาใช้ในชีวิตประจำวัน
 การใช้เวลาว่าง
การทำงาน

การมีสุขอนามัยและความปลอดภัยเบื้องต้น 
เด็กปัญญาอ่อน
แบ่งตามระดับสติปัญญา (IQ) ได้ 4 กลุ่ม
ลักษณะของเด็กที่บกพร่องทางสติปัญญา
ไม่พูด หรือพูดได้ไม่สมวัย
ช่วงความสนใจสั้น วอกแวก
 ความคิด และอารมณ์ เปลี่ยนแปลงง่าย รอคอยไม่ได้
ทำงานช้า
รุนแรง ไม่มีเหตุผล
อวัยวะบางส่วนมีรูปร่างผิดปกติ กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน
ช่วยตนเองได้น้อยกว่าเด็กในวัยเดียวกัน

    ดาวน์ซินโดรม Down Syndrome
สาเหตุ
   - ความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 21
   - ที่พบบ่อยคือโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง (Trisomy 21)
อาการ
- ศีรษะเล็กและแบน  คอสั้น
-หน้าแบน ดั้งจมูกแบน
-ตาเฉียงขึ้น ปากเล็ก
-ใบหูเล็กและอยู่ต่ำ รูหูส่วนนอกจะตีบกว่าปกติ
เพดานปากโค้งนูน ขากรรไกรบนไม่เจริญเติบโต
-ช่องปากแคบ ลิ้นยื่น ฟันขึ้นช้าและไม่เป็นระเบียบ
มือแบนกว้าง นิ้วมือสั้น
-เส้นลายมือตัดขวาง นิ้วก้อยโค้งงอ
-ช่องระหว่างนิ้วเท้าที่ 1 และ 2 กว้าง
-มีความผิดปกติในระบบต่างๆ ของร่างกาย
-บกพร่องทางสติปัญญาระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
-อารมณ์ดีเลี้ยงง่าย ร่าเริง เป็นมิตร
อวัยวะเพศมักเจริญเติบโตไม่เต็มที่ทั้งในชายและหญิง
การตรวจวินิจฉัยก่อนคลอดกลุ่มอาการดาวน์
-การเจาะเลือดของมารดาในระหว่างที่ตั้งครรภ์
-อัลตราซาวด์  
-การตัดชิ้นเนื้อรก
-การเจาะน้ำคร่ำ  

2.เด็กที่บกพร่องทางการได้ยิน
 
(Children with Hearing Impaired )

     หมายถึง เด็กที่มีความบกพร่อง หรือสูญเสียการได้ยินเป็นเหตุให้การรับฟังเสียงต่าง ๆ ได้ไม่ชัดเจนมี 2 ประเภท คือ เด็กหูตึง และ เด็กหูหนวก
เด็กหูตึง
       หมายถึง เด็กที่สูญเสียการได้ยิน แต่สามารถรับข้อมูลได้ โดยใช้เครื่องช่วยฟัง จำแนกกลุ่มย่อยได้ 4 กลุ่ม
เด็กหูหนวก 
- เด็กที่สูญเสียการได้ยินมากถึงขนาดที่ทำให้หมดโอกาสที่จะเข้าใจภาษาพูดจากการได้ยิน
- เครื่องช่วยฟังไม่สามารถช่วยได้
 - ไม่สามารถเข้าใจหรือใช้ภาษาพูดได้ 
 - ระดับการได้ยินตั้งแต่ 91 dB ขึ้นไป


ลักษณะของเด็กที่บกพร่องทางการได้ยิน
-ไม่ตอบสนองเสียงพูด เสียงดนตรี มักตะแคงหูฟัง
-ไม่พูด มักแสดงท่าทาง
-พูดไม่ถูกหลักไวยากรณ์
-พูดด้วยเสียงแปลก มักเปล่งเสียงสูง
-พูดด้วยเสียงต่ำหรือด้วยเสียงที่ดังเกินความจำเป็น
-เวลาฟังมักจะมองปากของผู้พูด หรือจ้องหน้าผู้พูด
 -รู้สึกไวต่อการสั่นสะเทือน และการเคลื่อนไหวรอบตัว
-มักทำหน้าที่เด๋อเมื่อมีการพูดด้วย 

3. เด็กที่บกพร่องทางการเห็น
 (Children with Visual Impairments)

- เด็กที่มองไม่เห็นหรือพอเห็นแสง เห็นเลือนราง
- มีความบกพร่องทางสายตาทั้งสองข้าง
- สามารถเห็นได้ไม่ถึง 1/10 ของคนสายตาปกติ
- มีลานสายตากว้างไม่เกิน 30 องศา

จำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ เด็กตาบอด และ เด็กตาบอดไม่สนิท

Snellen’s Chart

ลักษณะของเด็กบกพร่องทางการเห็น
-เดินงุ่มง่าม ชนและสะดุดวัตถุ
 -มองเห็นสีผิดไปจากปกติ
-มักบ่นว่าปวดศีรษะ คลื่นไส้ ตาลาย คันตา
-ก้มศีรษะชิดกับงาน หรือของเล่นที่วางอยู่ตรงหน้า
-เพ่งตา หรี่ตา หรือปิดตาข้างหนึ่ง เมื่อใช้สายตา
-ตาและมือไม่สัมพันธ์กัน
-มีความลำบากในการจำ และแยกแยะสิ่งที่เป็นรูปร่างทางเรขาคณิต 

Apply
      เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ควรคำนึงถึงความต้องการของเด็ก พัฒนาการ และ วุฒิภาวะเพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ

Teaching Method
     บรรยาย อธิบาย เกี่ยวกับความบกพร่องของเด็ก พร้อมทั้งสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน ใช้โปรแกรมMicrosoft PowerPoint ในการสอน

Assessment
   Place : บรรยากาศในห้องเรียนเหมาะสมต่อการเรียนรู้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่พร้อมใช้งาน
   My self : เข้าเรียนตรงต่อเวลา แต่งกายเรียบร้อย
   Classmate : ให้ความร่วมมือในการตอบคำถาม ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น
   Instructor : เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพ เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักศึกษา

วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2559

Diary Note 2

Diary Note 2
22nd January,2016

Knowledge

ความหมายของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

สรุปได้ว่าเด็กที่มีความต้องการพิเศษหมายถึง
-เด็กที่ไม่อาจพัฒนาความสามารถได้เท่าที่ควรจากการให้การช่วยเหลือ และการสอนตามปกติ
-มีสาเหตุจากสภาพความ บกพร่องทางร่างกาย สติปัญญา และอารมณ์
-จำเป็นต้องได้รับการกระตุ้น ช่วยเหลือ การบำบัด และฟื้นฟู
-จัดการเรียนการสอนที่เหมาะกับลักษณะ และความต้องการของเด็กแต่ละบุคคล

พฤติกรรมและพัฒนาการของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
พัฒนาการ
-การเปลี่ยนแปลงในด้านการทำหน้าที่และวุฒิภาวะของอวัยวะต่างๆรวมทั้งตัวบุคคล
-ทำให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 
เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ
-เด็กที่มีพัฒนาการล่าช้ากว่าเด็กปกติในวัยเดียวกัน
-พัฒนาการล่าช้าอาจพบเพียงด้านใดด้านหนึ่ง หลายด้าน หรือทุกด้าน
-พัฒนาการล่าช้าในด้านหนึ่งอาจส่งผลให้พัฒนาการในด้านอื่นล่าช้าด้วยก็ได้ 

ปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการเด็ก
สาเหตุที่ทำให้เกิดความบกพร่องทางพัฒนาการ
1. พันธุกรรม
เด็กจะมีพัฒนาการล่าช้ามาตั้งแต่เกิดหรือสังเกตได้ชั่วระยะไม่นานหลังเกิด  มักมีลักษณะผิดปกติแต่กำเนิดร่วมด้วย

2. โรคของระบบประสาท
-เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการส่วนใหญ่มักมีอาการหรืออาการแสดงทางระบบประสาทร่วมด้วย 
- ที่พบบ่อยคืออาการชัก 
3. การติดเชื้อ
- การติดเชื้อตั้งแต่อยู่ในครรภ์ น้ำหนักตัวแรกเกิดน้อย ศีรษะเล็กกว่าปกติ อาจมีตับม้ามโต การได้ยินบกพร่อง ต้อกระจก
- นอกจากนี้การติดเชื้อรุนแรงภายหลังเกิด เช่น สมองอักเสบ เยื้อหุ้มสมองอักเสบ เป็นสาเหตุที่พบได้บ้าง
4. ความผิดปกติเกี่ยวกับเมตาบอลิซึม
        โรคที่ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขไทย คือ ไทรอยด์ฮอร์โมนในเลือดต่ำ
5. ภาวะแทรกซ้อนระยะแรกเกิด
 การเกิดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวแรกเกิดน้อย และภาวะขาดออกซิเจน
6. สารเคมี
-ตะกั่วเป็นสารที่มีผลกระทบต่อเด็กและมีการศึกษามากที่สุด
-มีอากาศซึมเศร้า เคลื่อนไหวช้า ผิวดำหมองคล้ำเป็นจุดๆ
-ภาวะตับเป็นพิษ
       -ระดับสติปัญญาต่ำ
แอลกอฮอล์
-น้ำหนักแรกเกิดน้อย
- มีอัตราการเพิ่มน้ำหนักหลังเกิดน้อย ศีรษะเล็ก
-พัฒนาการของสติปัญญาก็มีความบกพร่อง
- เด็กบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
Fetal alcohol syndrome, FAS

-ช่องตาสั้น  
-ร่องริมฝีปากบนเรียบ
-ริมฝีปากบนยาวและบาง  
 -หนังคลุมหัวตามาก
-จมูกแบน 
-ปลายจมูกเชิดขึ้น
นิโคติน
- น้ำหนักแรกเกิดน้อย ขาดสารอาหารในระยะตั้งครรภ์
-เพิ่มอัตราการตายในวัยทารก
-สติปัญญาบกพร่อง
- สมาธิสั้น พฤติกรรมก้าวร้าว มีปัญหาด้านการเข้าสังคม 
7. การเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม
รวมทั้งการขาดสารอาหาร


8. สาเหตุอื่นๆ

อาการของเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ
มีพัฒนาการล่าช้าซึ่งอาจจะพบมากกว่า 1 ด้าน
ปฏิกิริยาสะท้อน (primitive reflex) ไม่หายไปแม้จะถึงช่วงอายุที่ควรจะหายไป

แนวทางการวินิจฉัย
เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ

1. การซักประวัติ

   เมื่อซักประวัติแล้วจะสามารถบอกได้ว่า




2. การตรวจร่างกาย

3. การสืบค้นทางห้องปฏิบัติการ
4.การประเมินพัฒนาการ
         การประเมินแบบไม่เป็นทางการ

การประเมินที่ใช้ในเวชปฏิบัติ
แบบทดสอบ Denver II
- Gesell Drawing Test 


- แบบประเมินพัฒนาการเด็กตามคู่มือส่งเสริมพัฒนาการเด็กอายุแรกเกิด - 5 ปี สถาบันราชานุกูล 


Activity
ตัวอย่างบุคคลที่ทำเพื่อสังคม

       เรื่องราวสุดประทับใจที่ถ่ายทอดหน้าที่ความเป็นครูที่นอกจากจะสอนหนังสือแล้วยังคอยช่วยเหลือลูกศิษย์ไม่ต่างจากแม่คนหนึ่งสร้างจากเรื่องจริงของคุณครูใหญ่ โรงเรียนวรรณวิทย์ ผู้มีจิตวิญญาณของครูผู้ให้ที่ทุ่มเทอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ให้เป็นคนดีของสังคม ที่เรียกได้ว่าหลังจากดูคลิปโฆษณาจบก็ทำให้ผู้ชมส่วนใหญ่ซาบซึ้งและประทับใจพระคุณของครู

เกม เพื่อรูปร่างที่สวยงาม

    การตอบคำถามจิตวิทยา เป็นกิจกรรมที่สอดแทรกระหว่างการเรียนการสอนเพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนมีความพร้อม ตื่นตัวขณะเรียนรู้

Apply
      เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ควรคำนึงถึงความต้องการของเด็ก พัฒนาการ และ วุฒิภาวะเพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ

Teaching Method
     บรรยาย อธิบาย เกี่ยวกับรายวิชา พร้อมทั้งสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน

Assessment
   Place : บรรยากาศในห้องเรียนเหมาะสมต่อการเรียนรู้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่พร้อมใช้งาน
   My self : เข้าเรียนตรงต่อเวลา แต่งกายเรียบร้อย
   Classmate : ให้ความร่วมมือในการตอบคำถาม ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น
   Instructor : เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพ เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักศึกษา

วันเสาร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2559

Diary Note 1

Diary Note 1
15th January,2016

Knowledge
 Pre Test
1. เด็กพิเศษที่มีลักษณะทางการบกพร่อง มีกี่ประเภทและมีอะไรบ้าง 
    มี  9 ประเภท คือ 
-บุคคลที่มีความบกพร่องทางการเห็น 
-บุคคลที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน 
-บุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา 
-บุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกาย หรือการเคลื่อนไหว หรือสุขภาพ 
-บุคคลที่มีปัญหาทางการเรียนรู้ 
-บุคคลที่มีความบกพร่องทางการพูด และภาษา
-บุคคลที่มีปัญหาทางพฤติกรรม หรืออารมณ์ 
-บุคคลออทิสติก 
-บุคคลพิการซ้อน

2. Down syndrome จัดอยู่ในกลลุ่มของเด็กที่มีความพิเศษประเภทใด 
-บุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา 


3. อาการบ่งชี้ของเด็กออทิสติกมีอะไรบ้าง
-ไม่สบตา ไม่พาที ไม่ชี้นิ้ว

4. เด็กหูหนวก กับ เด็กหูตึง แตกต่างกันอย่างไร 
-หูหนวก หมายถึง เด็กที่สูญเสียการได้ยินมากจนไม่สามารถรับข้อมูลผ่านทางการได้ยิน
-หูตึง หมายถึง เด็กที่มีการได้ยินเหลืออยู่บ้างสามารถได้ยินได้

5. "น้องโซดาอายุ 6  ขวบชอบเลียของเล่น นั่งเล่นของเล่นชิ้นเดิมๆได้เป็นชั่วโมงๆ โดยไม่สนใจใคร" หากวิเคราะห์พฤติกรรมข้างต้น อาจสันนิษฐานได้ว่าน้อโซดาอยู่ในกลุ่มของเด็กที่มีความต้องการพิเศษประเภทใด
-ประเภทบุคคลออทิสติก


6. เด็กสมาธิสั้นแตกต่างจากเด็กไฮเปอร์อย่างไร
-เด็กสมาธิสั้น  จะไม่สามารถทำอะไรให้เสร็จสมบูรณ์ได้ ต่อให้เป็นงานที่ง่ายที่สุดก็ตามเคลื่อนไหวตลอดเวลา หุนหันพลันแล่น
-เด็กHyper ลักษณะความซนจะมากกว่าเด็กทั่วไป ซนแบบไม่อยู่นิ่ง อยู่ไม่เป็นสุข ลุกลี้ลุกลนตลอดเวลา  

7. การศึกษาแบบเรียนรวมมีความหมายว่าอย่างไร
-การจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษได้เรียนรวมกับเด็กปกติ 


8. การศึกษาแบบเรียนรวมมีชื่อภาษาอังกฤษว่าอย่างไร
-Inclusive Education

Activity
ใบบันทึกการเข้าเรียน เพื่อฝึกให้เป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบและตรงต่อเวลา
 Apply
      เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ควรคำนึงถึงความต้องการของเด็ก พัฒนาการ และ วุฒิภาวะเพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ

Teaching Method
     บรรยาย อธิบาย เกี่ยวกับรายวิชา พร้อมทั้งสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน

Assessment
   Place : บรรยากาศในห้องเรียนเหมาะสมต่อการเรียนรู้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่พร้อมใช้งาน
   My self : เข้าเรียนตรงต่อเวลา แต่งกายเรียบร้อย
   Classmate : ให้ความร่วมมือในการตอบคำถาม ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น
   Instructor : เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพ เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักศึกษา